มัทฉะ กับ ชาเขียว ต่างกันยังไง: ทำความเข้าใจความแตกต่างที่คุณควรรู้

มัทฉะ กับ ชาเขียว ต่างกันยังไง

หลายคนอาจสงสัยว่า มัทฉะ กับ ชาเขียว ต่างกันยังไง เพราะทั้งสองอย่างนี้มาจากต้นชาชนิดเดียวกัน แต่จริงๆ แล้วมีความแตกต่างกันมากในเรื่องของกระบวนการผลิต รสชาติ คุณค่าทางโภชนาการ และวิธีการดื่ม วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับความแตกต่างทั้งหมดกัน ที่มาและกระบวนการปลูก ชาเขียว ปลูกภายใต้แสงแดดตามธรรมชาติ ใบชาจะถูกเก็บเกี่ยวแล้วนำไปผ่านกระบวนการนึ่งหรืออบเพื่อหยุดการออกซิเดชัน จากนั้นจึงนำไปตากแห้งและบรรจุ มัทฉะ มีกระบวนการพิเศษกว่า ก่อนเก็บเกี่ยวประมาณ 20-30 วัน ต้นชาจะถูกปิดด้วยผ้าหรือตาข่ายเพื่อบังแสงแดด ทำให้ใบชามีสีเขียวเข้มขึ้นและเพิ่มปริมาณคลอโรฟิลล์และกรดอะมิโน หลังเก็บเกี่ยว ใบชาจะถูกนึ่ง ตากแห้ง และนำไปบดละเอียดเป็นผงเขียวนวล ถ้าคุณสนใจเรื่องราวประวัติความเป็นมาของมัทฉะเพิ่มเติม สามารถอ่านได้ที่บทความ มัทฉะ Llamito: เครื่องดื่มฟิวชั่นใหม่ที่น่าลอง ของเรา ลักษณะและวิธีการดื่ม ชาเขียว มีลักษณะเป็นใบชาแห้ง เวลาดื่มจะต้องชงด้วยน้ำร้อน รอให้สกัดสารออกมา จากนั้นกรองใบชาทิ้ง ดื่มเฉพาะน้ำชา คุณจะได้รับเพียงสารที่ละลายน้ำได้เท่านั้น มัทฉะ เป็นผงสีเขียวละเอียด วิธีดื่มคือการตีผงมัทฉะให้เข้ากับน้ำร้อน (ไม่ใช่น้ำเดือด) จนเป็นฟอง แล้วดื่มทั้งหมดพร้อมผง ทำให้คุณได้รับสารอาหารทั้งหมดจากใบชา รสชาติและกลิ่น ชาเขียว มีรสชาติอ่อนๆ สดชื่น บางชนิดอาจมีความขมเล็กน้อย มีความหอมของใบชาสด … Read more

5 ข้อดีของมัทฉะที่คุณอาจไม่เคยรู้: ประโยชน์เหนือชาเขียวธรรมดา

5 ข้อดีของมัทฉะที่คุณอาจไม่เคยรู้

มัทฉะ (Matcha) ชาเขียวผงจากญี่ปุ่น กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ผู้รักสุขภาพทั่วโลก แต่คุณรู้หรือไม่ว่า มัทฉะมีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด และเหนือกว่าชาเขียวธรรมดาอย่างไร มาดู 5 ข้อดีของมัทฉะที่คุณอาจไม่เคยรู้กัน 1. สารต้านอนุมูลอิสระเข้มข้นสูง มัทฉะมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่า “คาเทชิน” (Catechins) สูงกว่าชาเขียวธรรมดาถึง 137 เท่า เนื่องจากเราบริโภคใบชาทั้งหมดในรูปแบบผง ไม่ใช่แค่น้ำสกัด คาเทชินช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย ลดความเสี่ยงของโรคหลายชนิด เช่น มะเร็งและโรคหัวใจ อีกทั้งยังช่วยลดการอักเสบในร่างกาย ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเรื้อรังหลายอย่าง 2. กระตุ้นการเผาผลาญและควบคุมน้ำหนัก การดื่มมัทฉะช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญในร่างกายได้ถึง 4 เท่า ซึ่งมากกว่าชาเขียวทั่วไปที่เพิ่มได้เพียง 2-3 เท่า สาเหตุมาจากสาร EGCG (Epigallocatechin Gallate) ที่มีปริมาณสูงในมัทฉะ ซึ่งช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน นอกจากนี้ คาเฟอีนในมัทฉะยังช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน ทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้มากขึ้น 3. เพิ่มพลังงานและความสดชื่นอย่างยั่งยืน มัทฉะให้พลังงานและความสดชื่นได้ดีไม่แพ้กาแฟ แต่ยั่งยืนกว่า ด้วยปริมาณคาเฟอีนที่พอเหมาะ (ประมาณ 35 มิลลิกรัมต่อครึ่งช้อนชา) และการมีสาร L-theanine ซึ่งช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและมีสมาธิ การผสมผสานระหว่างคาเฟอีนและ … Read more